อัจฉริยะแฉเดือด ตำรวจขโมยร่างแตงโม
วันที่ 2 พฤษภาคม 2565 นายอัจฉริยะ ร้อง ปปป.ให้เอาผิด 2 นายพลตำรวจคุมคดีแตงโม พร้อมเตรียมแถลงเปิดคลิปวิดีโอพร้อมหลักฐานขบวนการสร้างข้อมูลเท็จ ช่วยผู้ต้องหา จ่อร้องผบ.ตร.ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง นอกจากนี้ อัจฉริยะแฉเดือด ตำรวจขโมยศพแตงโมแก้ผลชันสูตร ลุยเปิดโปงทั้งขบวนการ
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ให้สืบสวนสอบสวนดำเนินคดีตำรวจที่เกี่ยวข้องในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีรพงษ์ หรือ แตงโม
นายอัจฉริยะเผยว่าที่มาร้องเอาผิดวันนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ร่วมกันแถลงข่าวสรุปสำนวนคดีแตงโมเมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา โดยนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งนายอัจฉริยะ ระบุว่า สิ่งที่เป็นเท็จ ได้แก่ ความเร็วจีพีเอส ภาพของผู้ต้องหาบนเรือ และภาพบาดแผลตัวเอสของหญิงสาวต่างชาติที่นำมาประกอบคลิปวิดีโอแถลงข่าว ที่อ้างว่าโดนใบพัดเรือเช่นเดียวกับบาดแผลของแตงโม รวมถึงการทดสอบบาดแผลกับดินน้ำมัน และการใช้หมูทดสอบทิศทางการตกเรือ
นอกจากนั้นยังมีข้อมูลว่า มีการขโมยร่างในช่วงที่อยู่ในความรับผิดชอบของสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ไปกระทำการบางอย่าง และแก้ผลชันสูตรบาดแผลตามร่างกายจาก 11 แผล เป็น 22 แผล และสรุปที่ 26 แผล
ทั้งหมดล้วนเป็นการสร้างหลักฐานเท็จที่ทำเป็นขบวนการมี พลตำรวจตรี เป็นหัวหน้าขบวนการ โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 อาจถูกหลอกต้ม ไม่ทราบถึงขบวนการดังกล่าว แต่ที่แจ้งความเอาผิดด้วย เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชาที่ทำหน้าที่กำกับดูแลคดีนี้
และในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00 น. จะเปิดแถลงข่าวใหญ่เปิดโปงขบวนการสร้างหลักฐานเท็จคดีแตงโม ซึ่งมีตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องกว่า 20 คน มีทั้งตำรวจฝ่ายสืบสวน สอบสวน เจ้าหน้าที่นิติเวช และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ร่วมขบวนการ โดยจะเสนอหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอมีทั้งภาพ และเสียง และบทสนทนาทางไลน์ รวมถึงคำรับสารภาพของพันตำรวจเอกนายหนึ่ง ซึ่งสารภาพแล้วว่า ประเด็นการปัสสาวะท้ายเรือของแตงโมไม่เป็นความจริง
ก่อนที่จะมาร้องทุกข์กับ บก.ปปป.วันนี้ นายอัจฉริยะ ยังบอกว่าได้รับการติดต่อพยายามเสนอเงินหลักแสนบาท เป็นรายเดือน เพื่อไม่ให้มาร้องทุกข์ และเปิดเผยขบวนการ พร้อมยืนยันว่า ขบวนการสร้างหลักฐานเท็จนี้ เริ่มขึ้นหลังเกิดเหตุประมาณ 3 วัน และเป็นการตั้งใจเพื่อแลกรับผลประโยชน์จากผู้ที่มีส่วนได้เสียทางคดี ไม่ใช่เป็นการทำงานผิดพลาดแล้วต้องการปกปิดคดี ซึ่งกุนซือสำคัญของคดีนี้เป็นคนเดียวกับที่ช่วยเหลือคดี บอส อยู่วิทยา ที่ขับรถชนตำรวจและหลบหนีไปต่างประเทศ
โดยที่มาร้องทุกข์วันนี้เพื่อให้ดำเนินคดีกับพลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และพลตำรวจตรีวสันต์ เตชะอัครเกษม ผู้บังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ในความผิดฐานมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 184 และ มาตรา 200 ช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษอาญา หรือรับโทษน้อยลง และในวันที่ 3 พ.ค. 2565 จะเดินทางไปยื่นให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับนายตำรวจทั้งสองนาย ที่ร้องทุกข์วันนี้และให้มีคำสั่งไปประจำที่ ศปก.ตร.